วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | ว่าง | |
---|---|---|---|---|---|
21 พ.ย. 67 - 26 พ.ย. 67 | 26,888 บาท | 9,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | 0 | |
22 พ.ย. 67 - 27 พ.ย. 67 | 32,888 บาท | 9,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | 0 | |
25 พ.ย. 67 - 30 พ.ย. 67 | 28,888 บาท | 9,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | 0 |
21.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 3 ผู้โดยสารขาออก เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน และโหลดกระเป๋าเคาน์เตอร์สายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์
01.00 น. เหินฟ้าสู่ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบินที่ XJ612
สายการบิน AIR ASIA X ใช้เครื่อง AIRBUS A330-300 จำนวน 377 ที่นั่ง จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 (น้ำหนักกระเป๋า 20 กก./ท่าน หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่ม ต้องเสียค่าใช้จ่าย)
บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง (ราคาโปรโมชั่นไม่มีอาหารบนเครื่อง)
08.50 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เรียบร้อยแล้ว (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา) ***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ
เดินทางสู่ เมืองเกียวโต (Kyoto) (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง) เมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่น มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องของวัฒนธรรมที่ประณีต ศิลปะแบบญี่ปุ่นอย่างแท้จริง มีมนต์เสน่ห์แบบชนบทญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นนิยมของคนทั่วโลก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)
นำท่านสู่ วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือ วัดเงิน เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ที่ขึ้นทะเบียนกับองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ซึ่งวัดกินคะคุจิเป็นวัดนิกายเซน ถูกสร้างขึ้นโดยโชกุนอชิกากะ โยชิมาสะ หลานชายของท่านโชกุน ที่สร้างวัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่าวัดทองสำหรับอาคารของวัดเงินสร้างขึ้นในรูปแบบเดียวกัน เพียงแต่จะไม่ได้มีสีทอง เป็นอาคาร 2 ชั้น และมีนกฟินิกซ์อยู่บนหลังคาอาคารเช่นเดียวกัน อาณาบริเวณของวัดซึ่งอยู่บนเขายังคงสภาพความเป็นธรรมชาติป่าอย่างสมบูรณ์แบบ มีต้นไม้นานาพรรณ ในแบบสวนญี่ปุ่น เต็มไปด้วยความชุ่มชื้นเย็นสบาย
นำท่านสู่ เมืองนาโกย่า (Nagoya) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นตัวเมืองของจังหวัดไอจิ มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 2 ล้านคน เป็นเมืองศูนย์รวมการค้าและการคมนาคมที่สําคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
นำท่านชม งานประดับไฟฤดูหนาว ณ หมู่บ้านนาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato) เป็นธีมพาร์คสวนดอกไม้ ที่มีทุ่งดอกไม้ให้ชมตลอดทั้ง 4 ฤดูกาล สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไฮไลท์!!! การประดับไฟขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น จะมีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงตลอดจนถึงปลายฤดูหนาว (กลางเดือนตุลาคม-เมษายน) จะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมี การแสดงไฟในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น อุโมงค์แสงไฟ (Tunnel of Light) หรือ การประดับไฟในน้ำ (Water Illumination) อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับอลังการงานประดับไฟที่ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็มีมุมให้เก็บภาพประทับใจกลับไปอย่างมากมาย
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก THE B NAGOYA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (2)
นำท่านสู่ เมืองกุโจฮาจิมัง (Gujohachiman) (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง)เสน่ห์ของที่นี่เต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น มีทั้งเมืองเก่าที่เรียงรายกัน และมีรางน้ำจำนวนมากจนถูกเรียกว่าเป็นเมืองแห่งสายน้ำ เมื่อเดินเล่นไปในเมืองนี้จะสังเกตเห็นได้ว่ามีรางน้ำไหลผ่านทั่วทั้งเมือง อิสระให้ท่านชม เมืองกุโจ ตามอัธยาศัย ให้ท่านเพลิดเพลินกับการชม พิพิธภัณฑ์เล็กๆ แกลเลอรี่ วัด ศาลเจ้า อีกทั้งยังมีเทศกาลเต้นรำฤดูร้อนอันโด่งดัง นอกจากนี้เมืองกุโจขึ้นชื่อเรื่องเมืองแห่งอาหารจำลอง ปริมาณการผลิตอาหารจำลองนั้นเป็นที่หนึ่งในญี่ปุ่น โมเดลอาหารที่เห็นตามร้านกินดื่มในญี่ปุ่นนั้นถูกผลิตจากที่นี่กว่าครึ่งเลยทีเดียว ถือได้ว่าแหล่งท่องเที่ยวนี่มีครบทั้งสายชิล สายธรรมชาติและสายวัฒนธรรม (สถานที่ท่องเที่ยงบางแห่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ราคาไม่รวมกับค่าทัวร์) นำท่านเดินทางสู่ร้านอาหาร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชั่วโมง)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (3)
จากนั้นนำท่านสู่ หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) เมืองที่เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น เป็นหมู่บ้านชาวนาที่มีรูปร่างแปลกตาติดอันดับ The most beautiful village in Japan และเป็นเมืองมรดกโลกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ไฮไลท์!! หมู่บ้านแบบกัชโชสึคุริ เป็นบ้านชาวนาโบราณที่มีอายุมากกว่า 250 ปี คำว่า กัชโช มีความหมายว่า พนมมือ ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงลักษณะ รูปแบบของบ้านที่มีหลังคามุงด้วยฟางข้าวที่ทำมุมชันถึง 60 องศา คล้ายสองมือที่ประนมเข้าหากัน ตัวบ้านมีความยาวประมาณ 18 เมตร กว้าง 10 เมตร ทั้งหลังถูกสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปู ต่อมา ในปีค.ศ. 1995 องค์กรยูเนสโกขึ้นทะเบียนให้ชิราคาวาโกะเป็นมรดกโลก จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองทาคายามะ (Takayama) จังหวัดกิฟุ เมืองเล็กๆ ที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและธารน้ำใสจำนวนมาก อบอวลไปด้วยแหล่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันอุดมสมบูรณ์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) อิสระให้ท่านเดินเล่น ถนนซันมาจิซูจิ (Sanmachi-Suji Street) ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น ลิตเติ้ลเกียวโต หรือ เกียวโตน้อย เป็นย่านเมืองเก่าแก่ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งอารยธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีในอดีตของชาวญี่ปุ่นได้อย่างสมบูรณ์ บ้านเรือน, ร้านค้า, คาเฟ่และโรงสาเก สร้างขึ้นด้วยไม้แบบโบราณ และยังคงบรรยากาศแบบสมัยเอโดะไว้ นอกจากนี้ยังมี วัด, ศาลเจ้า, สะพานและตลาดเช้าที่คึกคักเต็มไปด้วยผู้คน ตัวเมืองสวยสะอาด ทันสมัย และมีสภาพธรรมชาติ อันอุดมสมบูรณ์
นำท่านเดินทางสู่ เมืองมัตสึโมโตะ (Matsumoto) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของจังหวัดนากาโนะ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
พักที่ ALPICO PLAZA HOTEL หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (4)
นำท่านชม ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) (ด้านนอก) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที) เป็น 1 ใน 12 ปราสาทดั้งเดิมที่ยังคงสภาพสมบูรณ์และสวยงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และเป็น 1 ใน 5 ปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติ เป็นปราสาทที่สร้างอยู่บนพื้นที่ราบ มีเอกลักษณ์ตรงที่มีหอคอยและป้อมปืนเชื่อมต่อกับโครงสร้างอาคารหลัก และเนื่องจากผนังปราสาทมีสีดำและปีกด้านต่างๆ ของปราสาทแผ่กางออกเหมือนปีกนก เลยมีชื่อเรียกว่า คาราซุโจ ที่แปลว่า ปราสาทอีกา สำหรับข้างในตัวปราสาทมีขั้นบันไดสูงชันและเพดานที่ไม่สูงมาก บริเวณทางเดินจัดแสดงวัสดุเครื่องใช้ทางประวัติศาสตร์ เช่น ชุดเกราะซามูไรสมัยเซ็นโกกุ, ปืนคาบศิลาและอาวุธที่เคยใช้สู้รบในสมัยก่อน หน้าต่างเป็นหน้าต่างไม้แคบๆ มีช่องสำหรับยิงปืนและยิงลูกธนู ท่านสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นและเมืองมัตสึโมโตะได้จากชั้นบนสุดของปราสาทแห่งนี้
จากนั้นเดินทางสู่ ไร่วาซาบิไดโอะ (Daio Wasabi Farm) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) ไร่วาซาบิที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สัมผัสขั้นตอนการผลิต ที่ทางไร่พิถีพิถันมากๆ กว่าจะได้เจ้าวาซาบิส่งตรงมาถึงผู้บริโภคได้ ไร่แห่งนี้นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสายไร่ที่ใครได้ลองมาต้องติดอกติดใจ ด้วยทำเลที่ตั้งการที่ทางไร่ใช้น้ำบริสุทธิ์จากลำธารที่ไหลมาจากเทือกเขาทางทิศเหนือ ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปลูกคือเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ภายในนอกจากไร่วาซาบิแล้ว ยังมีร้านขายของ และร้านอาหารเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากวาซาบิอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นวาซาบิสด วาซาบิดอง โซบะวาซาบิ แกงกะหรี่วาซาบิ ไส้กรอกวาซาบิ น้ำสลัดรสวาซาบิ เบียร์ที่ทำจากวาซาบิ น้ำวาซาบิ ไอศกรีมรสวาซาบิ ช็อกโกแลตรสวาซาบิ และอื่นๆอีกมากมาย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (5)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซกิ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง แวะจุดพักรถ 1 สถานี) พาทุกท่าน แวะชม ร้านมีดซันชู หรือ Seki Hamano museum สถานที่ผลิตมีดได้คมสุดๆ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องการตีดาบญี่ปุ่นอย่างดาบ เซกิ สำหรับร้านมีดซันซูนี้มีเครื่องใช้ของมีคมมากกว่า 3,000 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นมีดหรือกรรไกรตัดแต่งกิ่งและสวน กรรไกรตัดเล็บหลากหลายขนาด หรือมีดสำหรับทำครัวหลากหลายรูปแบบที่ช่วยให้การทำวัตุดิบ นอกจากนี้ยังมีดาบญี่ปุ่น ขนมและเครื่องดื่มเย็นๆ จำหน่ายอีกด้วย
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับ เมืองนาโกย่า (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
อิสระให้ท่านเดินเล่นช้อปปิ้ง ย่านซาคาเอะ (Sakae) เป็นย่านธุรกิจการค้า โดยเฉพาะแหล่งราตรี เช่น คลับและบาร์ มีห้างสรรพสินค้ามัตสึซาคายะ หรือ เมืองใต้ดิน (Central Park) แหล่งรวมแฟชั่นและร้านค้าสุดเก๋มากมาย เช่น ร้านเสื้อผ้า, ร้านของใช้กระจุกกระจิก, ร้านซาลอนความงาม เป็นต้น แฟนๆไอดอลญี่ปุ่น ห้ามพลาด ต้องมาเยือนห้างสรรพสินค้าซันไชน์ ซาคาเอะ ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางแหล่งรวมความบันเทิงมากมาย ที่มี Grand Canyon ฮอลล์จัดคอนเสิร์ตศิลปินไอดอลและยังเป็นคาเฟ่ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่ตั้งของ “ชิงช้าสวรรค์ Sky Boat” แลนด์มาร์คของย่านนี้อีกด้วย อิสระเพลิดเพลินย่านนี้ตามอัธยาศัย
ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก THE B NAGOYA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6)
จากนั้นนำท่านสู่ หุบเขาโครังเค (Korankei Gorge) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ดีที่สุดในภูมิภาคชูบุ หุบเขาอยู่ในหมู่บ้านอะสุเกะ มีสายน้ำโอบล้อมภูเขาอิโมริ ที่ความสูง 254 เมตร ด้านบนเป็นที่ตั้งของวัดโคจะคุจิ เล่ากันว่ากว่า 300 ปี ที่แล้ว เจ้าอาวาสวัดโคจะคุจิ เริ่มปลูกต้นเมเปิ้ลบริเวณวัด ต่อมาชักชวนชาวบ้านให้มาช่วยปลูกเพิ่มเติมจนเต็มหุบเขา ถึงวันนี้มีต้นเมเปิ้ลมากกว่า 4000 ต้น ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเหล่าใบเมเปิ้ลจะเปลี่ยนสีสวยสะพรั่งทั่วหุบเขา ไฮไลท์!!เส้นทางริมแม่น้ำโทโมเอะ ซึ่งมีสะพานไม้ไทเกะสึเคียวเป็นฉากเด่น และเป็นสะพานสัญลักษณ์ประจำโครังเค ถือเป็นจุดที่สวยที่สุดของหุบเขาแห่งนี้ ใกล้กันมี หมู่บ้านซันชู อะสุเกะยาชิกิ (Sanshu Asuke Yashiki Village) เป็นพิพิธภัณฑ์ประเพณีพื้นบ้านที่รวบรวมและเก็บรักษาบ้านเก่าไว้ในบรรยากาศเหมือนหมู่บ้าน ชมวิถีชีวิตของคนชนบท เช่น เลี้ยงวัว ปลูกผัก มีช่างฝีมือนั่งทำงานในบ้านแต่ละหลัง กลึงไม้ สานตะกร้า ตีมีด ย้อมผ้า ทำกระดาษสา ทำร่ม เผาถ่าน ผู้เข้าชมสามารถเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์กิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นในบ้านแต่ละหลังได้อย่างใกล้ชิด (ไม่รวมค่าเข้าหมู่บ้าน ผู้ใหญ่คนละ 300 เยน เด็ก 100 เยน เปิดบริการ 9.00 -17.00 น.)
**หมายเหตุ ช่วงพีคของโครังเค คือกลางเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายน แต่ถึงแม้ไม่ใช่ช่วงพีค ธรรมชาติที่นี่ก็สวยงามและสามารถชมได้ตลอดทั้งปี
ออกเดินทางสู่ เมืองเกียวโต (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
จากนั้นสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น นั่นก็คือ การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น (Japanese tea ceremony หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Sado) โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้น มีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การรับชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีพิธี รายละเอียดที่บรรจงและสวยงามเป็นอย่างมาก พิธีชงชานี้ ไม่ใช่แค่รับชมอย่างเดียว ยังเปิดโอกาสให้ท่านได้มีส่วนร่วมในพิธีการชงชานี้อีกด้วย
บ่าย รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (7)
เดินทางสู่ เมืองโอซาก้า (Osaka) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภาคคันไซบนเกาะฮนชู ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันเมืองโอซาก้ามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มีแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยม มีสวนสนุกขนาดใหญ่ ทั้งยังมีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ (พิซซ่าญี่ปุ่น) และ คุชิคัตสึ
จากนั้นนำท่านสู่ LALAPORT & MITSUI OUTLET PARK OSAKA KADOMA มีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 17 เมษายน 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสาขาใหม่ล่าสุดที่มีเอกลักษณ์ในญี่ปุ่น ปกติแล้วศูนย์การค้าและเอาท์เล็ตจะแยกกันคนละที่ ดังนั้น นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เป็นการรวมศูนย์การค้าขนาดใหญ่เข้าด้วยกันกับOutlet ขนาดใหญ่แห่งแรก ห้างสรรพสินค้าที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันขนาดใหญ่ทั้งหมดถึง 4 ชั้น ที่ LaLaport คุณสามารถจับจ่ายสินค้าแฟชั่น อาหาร และของใช้ประจำวันอื่น ๆ และที่เอาท์เล็ท คุณจะพบสินค้าแบรนด์ทั้งในและต่างประเทศในราคาพิเศษที่จับต้องได้
จากนั้นอิสระช้อปปิ้ง ย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) บริเวณแหล่งช้อปปิ้งแห่งนี้มีความยาวประมาณ 600 เมตร เต็มไปด้วยร้านค้าปลีก ร้านแฟรนไชส์ ร้านเครื่องสำอางค์ ร้านรองเท้า กระเป๋านาฬิกา ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านเสื้อผ้าสตรีทแบรนด์ทั้งญี่ปุ่นและต่างประเทศ เช่น Zara H&M Beans ABC Mart เป็นต้น เรียกว่ามีทุกอย่างที่ต้องการรวมกันอยู่บริเวณนี้ ใกล้กันท่านสามารถเดินไปยัง ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) ย่านบันเทิงยามค่ำคืนตลอดแนวถนนเลียบคลองโดทงโบริ จากสะพานโดทงโบริบาชิไปจนถึงสะพานนิปปนบาชิ ไฮไลท์!!! ใครๆ ก็เช็คอิน ถ่ายภาพคู่ ป้ายกูลิโกะแมน หรือ ป้ายโดทงโบริกูลิโกะ (Dotonbori Glico Sign) เป็นป้ายไฟนีออนรูปนักกรีฑากำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่ง ซึ่งถูกติดตั้งมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.1935 นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสัญลักษณ์สถานที่นัดพบกันหลง นั่นก็คือ ร้านปูคานิโดรากุ (Kani Doraku) ซึ่งมีปูยักษ์ขยับแขนและลูกตาได้อีกด้วย และห้ามพลาดสำหรับ ทาโกยากิ อาหารท้องถิ่นของชาวโอซาก้า ที่มาถึงถิ่นแล้วต้องลอง Original Taste รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
พักที่ HOTEL B SUITES NAMBA, OSAKA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้าของโรงแรม --- BOX SET (8) (เนื่องจากบินไฟท์เช้าต้องออกก่อนเวลาห้องอาหารเปิด)
นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
09.55 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ613
14.05 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง (ราคาโปรโมชั่นไม่มีอาหารบนเครื่อง)
5 ซอยจันทน์ 18/7 แยก 24 แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120